แทรก/ลบ ช่องเซลล์ แถวหรือคอลัมน์
การสร้างตารางตามปกติไก้กำหนดขนาดของตารางว่ามีจำนวนกี่คอลัมน์และจำนวนกี่แถวตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการสร้างแต้หากสร้างตารางเรียบร้อยแล้วแต่มีความตั้งการแทรกเพิ่มเติมภายหลัง
สามารถทำได้ดังนี้
การแทรกคอลัมน์ (Insert Columns )
1.
เลือกตำแหน่งคอลัมน์ที่ต้องการแทรก
-
Insert left คือ
การแทรกคอลัมน์ใหม่ไว้ด้านซ้ายของคอลัมน์ที่เลือก
-
Insert right: คือ
การแทรกคอลัมน์ใหม่ด้านขวาของคอลัมน์ที่เลือก
การแทรกแถว (Insert Rows )
1.
เลือกตำแหน่งแถวที่ต้องการแทรก
2.
คลิกเลือกรูปแบบการแทรก
ที่แท็บ Layout บน Table Tools ซึ่งมีด้วยกัน
2 แบบคือ
-
Insert above: คือ
การแทรกแถวใหม่ด้านบนของแถวที่เลือก
-
Insert belowคือ
การแทรกแถวใหม่ด้านล่างของแถวที่เลือก
การแทรกเซลล์ (Insert Cells )
1.
เลือกตำแหน่งเซลล์ที่ต้องการแทรก
2.
คลิกขวาเลือก Insert คลิกเลือกคำสั่ง
Insert Cell
3.
ในหน้าต่าง Insert Cells ที่ปรากฏขึ้นมาให้คลิกเลือกรูปแบบของการแทรกซึ่งมีด้วยกัน
4 แบบคือ
-
Shift cells right: แทรกเซลล์ใหม่เซลล์เดิมจะถูกเลื่อนไปด้านขวา
-
Shi cells down: แทรกเซลล์ใหม่เซลล์เดิมจะถูกเลื่อนไปด้านล่าง
-
Inset entire row: แทรกแถวใหม่เลื่อนคอลัมน์เซลล์เดิมไปด้านขวา
4.
คลิกปุ่ม OK
ผสาน/แบ่ง
ช่องเซลล์
การผสานเซลล์ (Merge Cells ) คือ การนำเซลล์หลาย ๆ
เซลล์มารวมกันเป็นให้กลายเป็นเพียงเซลล์เดียว
เพื่อจัดทำหัวตารางหรือหัวเรื่องกึ่งกลางของตาราง เรียกว่า “การผสานเซลล์”
ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
1.
ลากคลุมหรือคลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการนำมารวมกัน
2.
คลิกที่คำสั่ง Merge Cells ในแท็บ Layout บน Table Tools ดังรูป
การแบ่งแยกเซลล์ (Split Cells )
หลักจากที่ได้ทำการวมเซลล์นั้นหากต้องการที่จะแบ่งเซลล์กลับมาเป็นเหมือนเดิม
จะต้องใช้คำสั่งแบ่งแยกเซลล์ ดังนั้น
1.
คลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการแบ่งเซลล์
2.
คลิกที่คำสั่ง Split Cells ในแท็บ Layout บน Table Tools
3.
ในหน้าต่าง Split Cells ให้ทำการดังนี้
-
กำหนดจำนวนคอลัมน์ในช่อง
Number of columns:
-
กำหนดจำนวนแถวในช่อง
Number of rows:
-
คลิกปุ่ม OK
แบ่งตาราง
การแบ่งแยกตาราง
(Split Table ) ตารางที่สร้างเสร็จแล้วนั้น
หากต้องการแยกตารางออกเป็นหลายสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
1.
ลากคลุมหรือคลิกเลือกตำแหน่งแถวที่ต้องการแยกตาราง
2.
คลิกที่คำสั่ง Split Table ในแท็บ Layout
บน Table Tools
3.
ตรวจดูผลลัพธ์ที่ได้
ติดตามการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในเอกสาร
การติดตามการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
(Track Change ) ไฟล์เอกสารที่ต้องใช้งานร่วมกันหลายคนนั้น
ควรจะต้องมีการติดตามการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารทั้งนี้เนื่องจากหากว่าใครแก้ไขสิ่งใดตรงจุดไหนไปแล้วบันทึกทับไฟล์เดิมลงไปจะทำให้เป็นการยากต่อการตรวจสอบเป็นอย่างยิ่ง
จึงจำเป็นต้องเปิดใช้งานคำสั่งนี้เพื่อช่วยให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารได้
ซึ่งสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
2.
คลิกคำสั่งTrack Changes ในกลุ่ม Tracking เพื่อเปิดการใช้งานคำสั่งนี้ก่อน
1.
คลิกที่คำสั่ง Change Tracking Options… เพื่อแก้ไขรายละเอียดคุณสมบัติของการติดตามการเปลี่ยนแปลง
2.
คลิกปุ่ม OK
3.
บันทึกไฟล์เอกสารตามปกติ
เมื่อกำหนดรายละเอียดคุณสมบัติของการติดตามการเปลี่ยนแปลงและบันทึกไฟล์เอกสารเรียบร้อย แล้ว
จึงจะสามารถส่งไฟล์เอกสารนี้ไปให้ผู้อื่นแก้ไขต่อไป
แสดงตัวอย่างเอกสารที่มีการเปิดใช้งานการติดตามการเปลี่ยนแปลงดังรูป
การยอมรับหรือปฏิเสธข้อมูลที่ถูกแก้ไข
หลังจากที่ไฟล์เอกสารผ่านกระบวนการแก้ไขจากผู้ใช้งานคนอื่น
ๆ แล้ว
การตรวจทานการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อมูลอย่างละเลียดเพื่อดูว่าใครแก้งานตรงจุดใดไปบ้าง
สามารถคลิกที่ Accept เพื่อยอมรับ
หรือ คลิกที่ Reject เพื่อปฏิเสธ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น