อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่อยู่บนระบบดังกล่าว ส่วนในมุมมองที่กว้างขึ้น “อาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์” หมายถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ ซึ่งอาศัยหรือมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย เช่น ทำลาย เปลี่ยนแปลง หรือขโมย ข้อมูลต่างๆ
· การเงิน-อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจ ในการทำธุรกรรม
อี-คอมเมิร์ซ(หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
· การละเมิดลิขสิทธิ์ –
การคัดลอกผลงานที่ลิขสิทธิ์
ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นสื่อในการก่ออาชญากรรม
แบบเก่าโดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมายถึง การละเมิดลิขสิทธิ์ ใด ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายหรือแพร่ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์
·
การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่งสิทธิ์ในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิการเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้การเจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่นๆ(เช่น
การปลอมแปลง การก่อการร้าย ฯลฯ)
·
การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ –ผลสืบเนื่องจากการเจาะระบบ
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัวเช่นเดียวกับการก่อการร้ายทั่งไปโดยการกระทำที่เข้าข่าย
การก่อการร้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ (e – terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาะระบบคอมพิวเตอร์เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน
หรืออย่างน้อยยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว
ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกำหนด 18 USC 2252A การประมวลผลหรือการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็ก ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
และตามข้อกำหนด 47 USC
223 การเผยแพร่ภาพลาม
·
อนาจารในรูปแบบใด ๆ
แก่เยาวชนถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย
อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงทางใหม่สำหรับอาชญากรรมแบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่องวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการคราบคุมช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่งโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง
·
ภายในโรงเรียน- ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับการศึกษาและสันทนาการ
แต่เยาวชนจำเป็นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ
โดยเป้าหมายของโครงการนี้คือ
เพี่อกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง
และวิธีที่เหมาะสมในการป้อนกันการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด
·
เด็กหนุ่มอายุ 16 ปี แอบเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของนาซ่าเพื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์มูลค่าเกือบสองล้านเหรียญออกมาใช้
·
แฮกเกอร์เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารเพื่อเปลี่ยนตัวเลขในบัญชีเงินฝากของตนให้มากขึ้น
·
นักแซ็ตจอมลวงหาเบอร์โทรศัพท์มือถือสาวจากเว็บไซต์ก่อนนัดแนะออกมาล่วงละเมิดทางเพศ
·
มีการเสนอขายโทรศัทพ์มือถือราคาถูกบนเว็บบอร์ดโดยหลอกให้ดอนเงินมัดจำไปให้ก่อน
·
มีเว็บไซต์ปลอมที่กลุ่มมิจฉาชีพทาทำไว้เพื่อลวงเอาหมายเลขบัตรเครดิต
·
ช่วงเหตุการณ์ตึกเวิร์ลเทรดโดนถล่ม
ก็มีอีเมลแอบอ้างว่ามาจากสภากาชาดขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย
โปรแกรม Trojan
ม้าโทรจัน โปรแกรมชนิดหนึ่งที่ดูเหมือนมีประโยชน์
แต่แท้ที่จริงก่อให้เกิดความเสียหายเมื่อรันโปรแกรม หรือติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ ผู้ที่ๆได้รับไฟล์โทรจันมักถูกหลวกลวงให้เปิดไฟล์ดังกล่าว โดยหลงคิดว่าเป็นซอฟต์แวร์ถูกกฎหมาย หรือไฟล์จากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อไฟล์ถูกเปิดอาจส่งผลลัพธ์หลายรูปแบบ เช่น
สร้างความรำคาญด้วยการเปลี่ยนหน้าจอ
สร้างไอคอนที่ไม่จำเป็น
จนถึงขั้นลบไฟล์และทำลายข้อมูล
โทรจันต่างจากไวรัสและเวิร์มคือโทรจันไม่สามารถสร้างสำเนาโดยแพร่กระจายสู่ไฟล์อื่น และไม่สามารถจำลองตัวเองได้
Back Door
โปแรมควบคุมระบบจากทางไกล โดยจะถูกติดตั้งไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นจะทำให้ผู้อื่นที่อยู่ภายนอกเข้าถึงและสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นได้
เป็นเครื่องที่บุกรุกนิยมใช้เพื่อให้ตนเองได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวจากระยะไกลมี
3 อย่างคือ BackOrifice,NetbusและSubSeven
Denial of Service
Denial of
Service (DoS) เป็นการโจมตีอีกรูปแบบหนึ่ง
ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หยุดการทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือทำให้การทำงานของเครื่องเพิ่มมากขึ้นจนไม่สามารถใช้งานได้ ในหลายกรณี การนำ patch
ล่าสุดมาติดตั้งลงในเครื่องจะช่วยป้อนกันการโจมตีแบบนี้ได้
การดักจับ Packet
การดักจับ Packet
เป็นการทำงานโดยอาศัยโปแกรมดักจับข้อมูลที่ถูกส่งไปมาในเครือข่าย ข้อมูลเหล่านี้อาจรวมไปถึงชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน
และข้อมูลทางธุรกิจอื่นๆ ที่ถูกส่งในรูปที่ไม่มีการเข้ารหัส บางครั้งอาจทำให้ผู้ที่ทำการดักจับ Packetได้รับข้อมูลรหัสผ่านจากการกระทำนี้มากมาย ซึ่งผู้บุกรุกสามารถนำเอาค่ารหัสผ่านที่ได้นี้ไปใช้ในการบุกรุกระบบ ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ
ผู้ที่จะติดตั้งโปแกรมดักจับ Packet
ไม่จำเป็นต้องได้รับสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบแต่อย่างใด
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการใช้งานผ่านสายชนิด
DSL และการใช้งานแบบ dial-up ที่ใช้โดยทั่วไป
ผู้ที่ใช้งานเคเบิลโมเด็มเป็นผู้ที่ได้รับความเสี่ยงสูงสุดต่อการถูกดักจับPacket
เนื่องมาจากผู้ใช้งานเคเบิลโมเด็มที่อยู่ไกลเคียงกันจะถูกเชื่อมต่อเข้าสู้เครือข่ายเสมือนหนึ่งอยู่ในวงเครือข่าย
LAN เดียวกัน หากผู้ใช้คนใดคนหนึ่งของเครือข่ายเคเบิลโมเด็มติดตั้งโปรแกรมดักจับ
Packetลงที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนก็จะสามารถดักจับข้อมูลทั้งหมดที่ส่งเข้าออกจากเคเบิลโมเด็มอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงไดทันที
การฉ้อโกงบัตรเครดิต
การฉ้อโกงบัตรเครดิตทำได้หลายวิธี
อาทิ การขโมยบัตร การปลอมทั้งใบ
การแปลงข้อมูลจากบัตรจริง
การปลอมบัตรพลาสติกสีขาว
การปลอมเอกสารในการสมัครเป็นผู้ถือบัตร
และผู้ถือบัตรเป็นผู้ทุจริตเอง
คนร้ายสามารถปลอมบัตรเครดิตขึ้นมา โดยบรรจุเอาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือบัตรที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายจากแหล่างต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น สลิปบัตร สแปมเมล หรือส่งอีเมลสุ่ม เพื่อหวัดข้อมูลบัตรเครดิตของผู้รับ หรือไม่อย่างนั้นก็ส่งโปรแกรมเฉพาะ
ผ่านมาทางเว็บไซต์ผิดกฎหมาย
โดยคนร้ายที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวผู้ถือบัตร อาจใช้ข้อมูลที่ขโมยมา
นำไปซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตหรือทางโทรศัพท์อีกต่อไป
วิธีการป้อนกันจากการฉ้อโกงบัตรเครดิต
·
เซ็นชื่อลงบนแถบลายเซ็นทันที จดหมายเลขเครดิต หมายเลขโทรศัพท์สำหรับแจ้งบัตรหาย
และเก็บไว้ที่ปล่อยภัย หาง่ายยามฉุกเฉิน
·
ไม่ควรตั้งรหัสเอทีเอ็มโดยใช้ข้อมูลส่วนตัวซึ่งง่ายต่อการคาดเดา
ไม่ว่าจะเป็นชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด
·
จำรหัสเอทีเอ็มให้ได้ ถ้าจำเป็นต้องจดไว้ ไม่ควรเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ หรือเก็บไว้ไกล้กับบัตร
และไม่ควรบอกรหัสเอทีเอ็มให้บุคคลอื่นทราบ
·
เก็บรักษาบัตรของคุณเช่นเดียวกับที่คุณเก็บเงินสด หากเป็นไปได้
ไม่ควรปล่อยให้บัตรคลาดสายตาในระหว่างที่พนักงานนำบัตรของคุณไปรุด
·
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับบัตรของคุณคืนมาทุกครั้ง หลังชำระเงิน
และก่อนเซ็นเซลล์สลิป
ควรตรวจสอบจำนวนเงินว่าตรงกับราคาสินค้า บริการ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำข้อมูลในเซลล์สลิปไปใช้ในทางที่มิชอบ และเก็บไว้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องภายหลัง
·
ตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายในใบแจ้งบัญชีบัตรเครดิต ประจำเดือนว่ามีจำนวนเงินตรงกับที่คุณใช้ไปหรือไม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังกลับจากการเดินทางต่างประเทศ
·
ไม่ควรบอกหมายเลขบัตรเครดิตของคุณแก่บุคคลอื่นทางโทรศัพท์
เว้นแต่คุณกำลังติดต่อกับองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ
หรือคุณเป็นฝ่ายเริ่มการติดต่อด้วยตัวเอง
·
ตรวจสอบให้แน่ใจหากมีความจำเป็นต้องบอกหมายเลขบัตรเครดิตของคุณทางโทรศัพท์
และขอเอกสารยืนยันการซื้อขายที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานขายทางโทรศัพท์ทุกครั้ง
·
อย่าไว้ใจพนักงานขายสินค้าทางโทรศัพท์ที่เร่งหรือกดดันให้คุณรีบซื้อสินค้า
อย่าให้หมายเลขบัตรจนกว่าคุณตัดสินใจแน่แล้วว่าจะซื้อสินค้า
·
หากสมาชิกในครอบครัวคุณนำบัตรของคุณไปใช้
อาจโดยที่คุณทราบหรือไม่ทราบมาก่อน
คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบยอดการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
ผลกระทบของการโจรตีและการละเมิดความปลอดภัย
·
การโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว
·
ทำลายไฟล์งาน
·
ก่อกวนการทำงาน
·
การแก้ไขข้อมูลส่วนตัว
·
การแก้ไขผลคะแนน
·
การปลอมแปลใบรับรองผลการศึกษา
การป้องกันการโจรตีและการละเมิดความปลอดภัย
· ติดตั้งโปรแกรมช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย
·
ไม่เปิดดูอีเมลล์หรือไฟล์แปลกๆที่ได้รับจากคนที่ไม่รู้จัก
·
ทำสำเนาข้อมูลที่สำคัญเก็บไว้ทุกครั้งเมื่อใช้งาน
·
ปิดระบบแชร์ไฟล์
การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
มีคนเคยกล่าวว่าอินเทอร์เน็ตเป็นโลกเสรี ดังนั้นเราจะเข้าไปพูดไปเขียนอะไรอย่างไรก็ได้
ซึ่ง...คำกล่าวนี้ไม่ถูกต้องนัก
เพราะแม้การกระทำบางอย่างจะไม่ผิดกฎหมายเด่นชัด แต่ชาวอินเทอร์เน็ต ก็มีจรรยาบรรณการใช้งาน
ที่ถือเป็นแนวปฏิบัติเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขที่เรียกว่าเน็ตติเก็ต (Netiquette) ซึ่งแนวทางหลักของเน็ตติเก็ตคือการเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน
พึงระลึกอยู่เสมอว่าแม้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกในการสื่อสารข้อมูล หรือ
ความคิดทุกรูปแบบอย่างไร้พรมแดนบนอินเทอร์เน็ต
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นได้
การละเมิดลิขสิทธิ์ / ทรัพย์สินทางปัญญา
การละเมิดลิขสิทธิ์ หมายถึงการนำผลงานของผู้อื่นมาใช้ เผยแพร่ ดัดแปลง ทำซ้ำ โดยผู้เป็นเจ้าของผลงานไม่อนุญาตหรือไม่ได้รับทราบ ปกติแล้วผลงานใดๆ อาทิ สิ่งประดิษฐ์ วรรณกรรม ศิลปกรรม ฯลฯ
เป็นกรรมสิทธิ์และลิขสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์โดยปริยาย การนำนำผลงานมาใช้อาจมีเงื่อนไขบางประการเรียกว่าสัญญาอนุญาต
ซึ่งกำหนดโดยเจ้าของผลงานหรือกำหนดตามกฎหมาย
เมื่อไม่ได้ทำตามเงื่อนไขจึงละเมิดลิขสิทธิ์
ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) คือสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายที่คุ้มครองการประดิษฐ์ การออกแบบต้นฉบับ ยี่ห้อการค้า รวมถึงสิทธิบัตร
เครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ (Copyight) เป็นการให้สิทธิแก่ผู้สร้าง
ผู้ให้บริการพื้นที่
(Space provider )
และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
หรือที่เรียกว่า ISP (Internet Service Provider)
มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบกรณีรู้เห็นกับผู้ใช้ในการนำผลงานที่ได้มาโดยมิชอบหรือโดยผิดกฎหมายมาเผยแพร่บนเว็บไซต์
ในทางตรงข้ามก็ไม่ต้องรับผิดชอบหากสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รู้เห็นกับผู้ใช้
การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์หมายถึงการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการคัดลอกซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยมีหลายประเทศที่มีกฎหมายลิขสิทธิ์ที่มีกฎหมายบังคับ แต่ระดับการบังคับแตกต่างกันไป ระบบระดับคอมพิวเตอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในทุกวันนี้มีอายุราว 40 ปี
ในด้านลิขสิทธิ์แล้วจะไม่หมดลิขสิทธิ์ไปจนราวปี ค.ศ.2030 ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
การสงวนสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต
การกระทำที่ผิดกฎหมายที่เป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
·
การ Download โปรแกรมลิขสิทธิ์มาใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
·
การคัดลอก DVD ภาพยนตร์
แจกจ่ายเพื่อน
·
การส่งอีเมลบทความต่อๆกัน
·
การบันทึก VDO การแสดงเล่นดนตรีโดยไม่อนุญาต
·
เครื่องหมายการค้าของบริษัทในประเทศหนึ่งอาจไปซ้ำกับเครื่องหมายการค้าอีกบริษัทหนึ่งในอีกประเทศหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น